ความหมายของวันไหว้ครู
วันไหว้ครูไม่ได้เป็นวันหยุดราชการ แต่เป็นวันสำคัญในระดับสถานศึกษา โดยโรงเรียนจะจัดพิธีให้ตัวแทนนักเรียนแต่ละระดับถือพานไหว้ครู เพื่อแสดงออกถึงความเคารพ ความสำนึกในพระคุณ และความตั้งใจในการขอเป็นศิษย์ของครูอย่างเป็นทางการ พร้อมกับกล่าว “คำไหว้ครู” และฟังโอวาทจากผู้อำนวยการหรือครูอาวุโสของโรงเรียน
ประวัติและความเป็นมาของวันไหว้ครู
พิธีไหว้ครูมีรากฐานมาจากสังคมไทยดั้งเดิมที่ยกย่องครูเป็น “ผู้ให้แสงสว่างทางปัญญา” ไม่ใช่เพียงถ่ายทอดความรู้ แต่ยังหล่อหลอมจริยธรรมและค่านิยมให้กับลูกศิษย์ การจัดพิธีไหว้ครูอย่างเป็นทางการในสถานศึกษาเริ่มแพร่หลายมากขึ้นตั้งแต่ช่วงหลังปี พ.ศ. 2499 โดยมีการส่งเสริมจากคุรุสภา และรัฐบาลในยุคของจอมพล ป. พิบูลสงคราม
แม้ว่าจะมี วันครูแห่งชาติ ซึ่งตรงกับวันที่ 16 มกราคมของทุกปี แต่พิธีไหว้ครูในโรงเรียนจะจัดขึ้นแยกต่างหาก โดยเน้นที่ความผูกพันระหว่างครูผู้สอนกับศิษย์ และถือเป็นการเริ่มต้นปีการศึกษาด้วยความเป็นสิริมงคล
ความสำคัญของพิธีไหว้ครู
- แสดงออกถึงความเคารพและกตัญญูต่อครูบาอาจารย์
- เสริมสร้างสายสัมพันธ์อันดีระหว่างครูกับศิษย์
- สืบทอดประเพณีและวัฒนธรรมไทยอันดีงาม
- เป็นกำลังใจให้ครูในการปฏิบัติหน้าที่ และเสริมแรงใจให้นักเรียน
- เป็นจุดเริ่มต้นของการเรียนรู้อย่างมีเป้าหมายและระเบียบวินัย
สาระสำคัญของพิธีไหว้ครู
ในพิธีไหว้ครู นักเรียนจะนำพานดอกไม้ ซึ่งประกอบด้วยดอกเข็ม ดอกมะเขือ และหญ้าแพรก มาแสดงสักการะหน้าครู โดยดอกไม้แต่ละชนิดมีความหมายเฉพาะ:
- ดอกเข็ม สื่อถึงความเฉลียวฉลาดและความรู้
- ดอกมะเขือ สื่อถึงความอ่อนน้อมถ่อมตน
- หญ้าแพรก สื่อถึงความอดทนและเจริญงอกงาม
ครูจะกล่าวให้โอวาท พร้อมให้ข้อคิดในการดำเนินชีวิต เพื่อให้นักเรียนตั้งใจศึกษาและเป็นคนดีของสังคม